การเล่นทราย

การเล่นเป็นกิจกรรมหลักและมีความสำคัญสำหรับเด็ก กิจกรรมการเล่นทราย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาการเรียนรู้เกี่ยวกับประสาทสัมผัส การรับความรู้สึกของพื้นผิว ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการเล่นบทบาทสมมติ การเล่นทรายช่วยให้เด็กๆ รู้จักการสังเกต การจำแนก เปรียบเทียบ ทั้งยังส่งเสริมความสัมพันธ์กล้ามเนื้อมือและตาได้ดี เช่น การตัก ร่อน เท ชั่ง ตวง และคาดคะเน เป็นต้น นอกจากนี้การเล่นทรายยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ของเด็กๆ อีกด้วย ในบความนี้จะมาพูกถึงลักษณะของทรายที่ให้เด็กเล่น ประเภทของทราย และประโยชน์ของการเล่นทราย ว่ามีอะไรบ้าง

การเล่นทรายเสริมพัฒนาการ

การเล่นทรายหรือการเล่นเป็นกิจกรรมหลักและมีความสำคัญสำหรับเด็ก เพราะให้เด็กเกิดการพัฒนาและการซึมซับความรู้พื้นฐานต่างๆ เป็นการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กได้แสดงออกจากการเล่นอย่างเต็มที่ และได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วยความสนุกสนานควบคู่กับการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เด็กในวัย 2-6 ปี มีความต้องการเล่นอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นวัยที่กำลังอยากรู้อยากเห็น เด็กจะมีความสุขมาก ถ้าเราเปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระโดยไม่ถูกจำกัดเวลา ยิ่งเล่นเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ หลายครั้งที่เจ้าตัวเล็กของเราชอบเล่นดินเล่นทราย การเล่นทรายอาจทำให้เสื้อผ้าเนื้อตัวมอมแมมจนคุณแม่ต้องปวดหัวกัน แต่ถ้าหากการที่เราปล่อยให้ลูกของเราได้มีโอกาสเล่นดินเล่นทรายบ้างจะช่วยพัฒนาการได้เป็นอย่างดี

ลักษณะของทรายที่ควรให้เด็กเล่น

  • ทรายก่อสร้าง

การเล่นทรายสามารถใช้ทรายก่อสร้างได้จะมีราคาถูกและหาซื้อง่าย ก่อนการเล่นทรายก่อสร้างควรจะนำมาร่อนเอากรวดก้อนใหญ่ๆ ออก นำแต่เนื้อทรายละเอียดมาให้เด็กเล่น เด็กจะได้ใช้ประสาทสัมผัสที่ดีกว่าการมีกรวด หรือเศษหินปนอยู่ในทราย และที่สำคัญไม่อันตรายต่อมือเด็กด้วย ถ้าผู้ปกครองพอจะมีเวลา ให้นำทรายก่อสร้างมาล้างน้ำประมาณ 4-5 รอบ เพื่อทำความสะอาดล้างสิ่งสกปรกที่มากับทรายออก จากนั้นนำทรายที่ล้างแล้วมาแผ่บนผ้ายางหรือกระดาษ เพื่อตากแดดให้แห้งเมื่อทรายแห้งสนิท เนื้อทรายจะสะอาดนุ่มมือมากทำให้การเล่นทรายของลูกก็จะปลอดภัยต่อมือน้อยๆ

  • ทรายทะเล

การเล่นทรายทะเลจะมีสีขาวสวยงามเนื้อทรายละเอียดน่าสัมผัส แต่ราคาค่อนข้างแพง ส่วนมากจะขายเป็นกระสอบ โดย 1 กระสอบราคา 270 บาท ได้ประมาณ 30 กิโลกรัม (ราคาทั่วไปตามท้องตลาด) สำหรับทรายธรรมดาถ้านำมาให้เด็กเล่นแบบปกติ ควรใช้น้ำผสมทรายให้ทรายมีความเปียกอยู่เสมอ เพื่อให้สะดวกต่อการเล่นทรายของเด็ก เพราะทรายจะจับตัวเป็นก้อน การเล่นทรายที่มีความเปียกสามารถก่อเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ดีและที่สำคัญ คือป้องกันอันตรายจากทรายที่จะปลิวเข้าตาเด็กได้ด้วย

  • ทรายมหัศจรรย์

การเล่นทรายมหัศจรรย์มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Kinetic Sand (หรือบางคนอาจเรียกทรายแม่เหล็ก) ผู้ปกครองสามารถทำใช้ได้เอง เพราะถ้าซื้อตามร้านค้าราคาจะอยู่ที่ 500 – 850 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ในการทำทรายมหัศจรรย์นี้สามารถใช้ได้ทั้งทรายก่อสร้างและทรายทะเล

ประเภทของการเล่นทราย

การเล่นทรายแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. การเล่นทรายกลางแจ้ง

การเล่นทรายกลางแจ้งควรจัดไว้ในพื้นที่ร่ม และมีพื้นที่เล่นขนาดกว้างพอสำหรับเด็กลงไปเล่นได้ หากอยู่กลางแดดนานจะทำให้เด็กไม่สบายได้

2. การเล่นในกระบะทรายภายในที่ร่ม

สำหรับการเล่นทรายภายในห้อง กระบะที่ใช้สำหรับเล่นในห้องแนะนำเป็นถาดไม้ หรือกะละมังพลาสติกสี่ทรงเหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 34 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร หรือจะใหญ่กว่านี้ได้ ที่แนะนำกะละมังพลาสติกเพราะหาได้ซื้อง่ายและราคาไม่แพง เวลาเล่นควรหาผ้ายางรองใต้กระบะทรายเพื่อเวลาเล่นมีเศษทรายเลอะหรือหกออกนอกกระบะจะได้ทำความสะอาดได้ง่าย แล้วอย่าลืมเวลาเลิกเล่นทรายในบ่อหรือในกระบะแล้วทุกครั้งให้ใช้ผ้ายางคลุมเพื่อป้องกันแมลงตัวเล็กๆ หรือสิ่งแปลกปลอมตกลงไปในทราย เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ

การเล่นทราย

วิธีการทำทรายมหัศจรรย์

วัสดุอุปกรณ์ในการเล่นทรายสำหรับเด็ก ควรเป็นวัสดุที่ไม่แหลมคม เช่น จาน ชาม ถ้วย ช้อน พลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว กระชอนร่อนทราย แม่พิมพ์ต่างๆ ตัวตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ กิ่งไม้แห้งเล็กๆ หรืออุปกรณ์ตักทรายที่มีขายในตลาดทั่วไปนอกจากนี้มีวิธีการทำ ทรายมหัศจรรย์ ง่ายๆ สำหรับผู้ปกครองที่สนใจได้ทดลองทำ เพื่อนำไปทำกิจกรรมและเล่นกับเด็กๆ กัน

อุปกรณ์

  • ทราย 1 กิโลกรัม
  • กาวน้ำ 1/3 ถ้วย หรือ 80 มิลลิลิตร
  • น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ 3 ช้อนชา
  • สบู่เหลว 1 ช้อนโต๊ะ
  • สีผสมอาหารและกากเพชร

ขั้นตอนการทำ

1. ใส่ทรายปริมาณ 500 กรัม กาวและสบู่ ลงในภาชนะสำหรับผสม แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน โดยในขั้นตอนนี้แนะนำให้ผู้ปกครองใส่ถุงมือด้วย เพราะในการคลุกแรกๆ กาวยังไม่จับตัวกับทราย ทำให้ค่อนข้างเหนียวและติดมือ สบู่เหลวที่นำมาผสม แนะนำเป็นยี่ห้อ BeNice เพราะเท่าที่เราได้ทดลองทำมาทั้งหมด ยี่ห้อนี้ได้ผลดีที่สุด หากหาทรายทะเลไม่ได้ และต้องการใช้ทรายก่อสร้างที่หาได้ง่ายกว่า ควรนำมาร่อนเศษหินออกแล้วล้างน้ำให้สะอาด และต้องนำไปตากให้แห้งสนิท ถ้าทรายไม่แห้ง เวลาทำอาจไม่ได้ผล

2. คลุกเคล้าส่วนผสมไปเรื่อยๆ จนจับตัวกันเป็นก้อน ให้ใส่น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ลงไปแล้วคลุกเคล้าไปเรื่อยๆ จนกว่าเนื้อจะเหนียวและมีความยืด น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ยี่ห้อที่แนะนำคือ renu fresh ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายแว่นและร้านขายยาทั่วไป

3. เมื่อคลุกเคล้าส่วนผสมจนได้เนื้อทรายที่เหนียวและยืดพอสมควรแล้ว ให้คุณครูและผู้ปกครองทยอยใส่ทรายที่เหลือลงไป โดยอาจเททรายที่เหลือลงไปครึ่งหนึ่งก่อน คลุกให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่อีกครึ่งลงไปจนหมด แล้วคลุกส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง

4. คลุกเคล้าส่วนผสมไปเรื่อยๆ จนกว่าเนื้อทรายจะไม่เหนียวหรือร่วนจนเกินไป ที่สำคัญต้องสามารถปั้นเป็นก้อนได้ และเมื่อนำทรายมาใส่แม่พิมพ์แล้วเนื้อทรายต้องไม่แตกออกจากกัน

ถ้ารู้สึกว่าเนื้อทรายยังเหนียวเกินไป ให้ใส่ทรายเพิ่มลงไปทีล่ะนิดแล้วนวดให้เข้ากัน จนกว่าจะได้เนื้อทรายอย่างที่ต้องการ หรือถ้ารู้สึกว่าเนื้อทรายร่วนเกินไปให้ใส่น้ำลงไปทีละ 1-2 ช้อนชา แล้วนวดให้เข้ากันเนื้อทรายก็จะเกาะตัวและเหนียวขึ้น แต่ถ้ายังไม่เหนียวขึ้นให้หยดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ 1-2 หยดก็จะช่วยได้

ทั้งนี้ต้องบอกก่อนว่าการคลุกส่วนผสมต่างๆ ใช้เวลาพอสมควร เพราะฉะนั้นผู้ปกครองต้องใจเย็นและมีความอดทน โดยเฉพาะขั้นตอนนี้จะใช้เวลามากกว่าขั้นตอนอื่นๆ อย่ารีบร้อนใส่ทรายหรือน้ำลงไปพร้อมกันทีเดียวจนหมด

5. เมื่อเราได้เนื้อทรายอย่างที่ต้องการแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการใส่สีและกากเพชร เพื่อเพิ่มสีสันให้กับทราย เพราะทรายที่มีสีสันสดใสนั้น สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ได้ดีและในขณะที่เล่นยังสามารถสร้างจินตนาการให้เด็กๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย

6. เพียงเท่านี้ก็จะได้ทรายมหัศจรรย์ สามารถนำไปให้เด็กๆ ได้เล่นอย่างสนุกสนาน ปลอดภัย และที่สำคัญทำได้ง่ายๆ ในราคาประหยัด

ส่วนการเก็บทรายมหัศจรรย์ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เก็บทรายใส่กระปุกพลาสติกหรือถุงซิบล็อกก็เป็นอันใช้ได้ ทั้งนี้ถ้าหากนำทรายมาให้เด็กๆ เล่นแล้วทรายร่วนไม่เกาะตัวกัน ให้นำน้ำและน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์มาหยดใส่ทรายเล็กน้อยแล้วนวดสักครู่ ทรายก็จะกลับมาเล่นได้เหมือนเดิม

ค่าใช้จ่ายในการทำทราย

ค่าใช้จ่ายในการทำทรายครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 100 บาท แบ่งเป็น

  • ค่าทราย 1 กิโลกรัม เป็นเงิน 9 บาท
    (ทรายทะเล กระสอบละ 270 บาท ได้ 30 กิโลกรัม)
  • น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ ยี่ห้อ renu fresh 3 ช้อนชา (15 มิลลิลิตร) เป็นเงิน 15 บาท
    (ขนาด 60 มิลลิลิตร ราคา 60 บาท ใช้ได้ 4 ครั้ง)
  • สบู่เหลว BeNice 1 ช้อนโต๊ะ เป็นเงิน 5 บาท
    (ขนาด 90 มิลลิลิตร ราคา 29 บาท ใช้ได้ 6 ครั้ง)
  • กาวน้ำ 80 มิลลิลิตร เป็นเงินประมาณ 4 บาท
    (ขนาด 560 มิลลิลิตร ราคา 25 บาท)
  • สีผสมอาหาร 25 บาท
  • กากเพชร 10-15 บาท

การเล่นทราย

ประโยชน์ของการเล่นทราย

เด็กเรียนรู้จากการเล่นหลายๆ อย่าง สามารถกระตุ้นพัฒนากาได้เป็นอย่างดี การเล่นทรายแม้ว่าจะเป็นการเล่นที่เปื้อนตัว แต่เต็มไปด้วยประโยชน์ที่แฝงในการเล่น ประโยชน์ของการเล่นทรายมีดังนี้

1. เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

การเล่นทรายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้ลูกได้เป็นอย่างดี เด็กมักจะมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นจากการเล่นของต่างๆ ที่เปลี่ยนรูปร่างได้ง่าย เช่น ทราย น้ำ ดินน้ำมัน การเล่นทราย ลูกจะได้ลองสร้างสรรค์ การตักทราย การย้ายทรายไปมา การปั้นทรายเป็นรูปนึงแล้วเปลี่ยนเป็นอีกรูปหนึ่ง ทำให้ลูกได้ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การเล่นทรายทำให้ลูกรู้สึกเป็นอิสระในการเล่น ไม่มีกฏเกฎฑ์มาควบคุม การเล่นทรายอาจเป็นจุดกำเนิดของการเรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะของลูกในอนาคต

2. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving)

การเล่นทรายจะแทรกการตัดสินใจแก้ปัญหาไว้ในบางจุด เช่น ควรตักทรายแบบไหน ตักเท่าไหร่ถึงจะเต็ม หรือถ้าปั้นทราย ต้องปั้นแบบไหนจะได้แบบที่ต้องการ ระหว่างการเล่นทรายลูกจะได้ใช้ทักษะต่างๆ เหล่านี้ เมื่อทำสำเร็จ หรือแก้ปัญหาสำเร็จ จะสร้างความภูมิใจให้ลูกเป็นอย่างมาก

3. พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine Motor development)

การเล่นทรายทำให้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น มือ นิ้วมือ ถ้ามีความแข็ง ย่อมส่งผลดีต่อทักษะต่างๆ ของลูกในอนาตค เช่น การเขียนหนังสือ การผูกเชือกรองเท้า การเล่นทราย ลูกจะได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการตักทราย การปั้นทราย กำทรายใส่กระบะ ยิ่งทำบ่อยๆ กล้ามเนื้อมัดเล็กยิ่งแข็งแรง

4. พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross motor development)

การเล่นทรายนอกจากจะได้กล้ามเนื้อมัดเล็กแล้ว ยังได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ด้วย เช่น การออกแรงขุดทราย การเดิน การขยับร่างกายต่างๆ ขณะที่เล่นทราย ลูกจะได้เรียนรู้การใช้กล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่เหล่านั้นพัฒนามากขึ้น

5. กระตุ้นการทำงานแบบสัมพันธ์กันของตาและมือ (Eye-hand coordination)

การเล่นทรายหรือการตักทรายใส่กระบะเหมือนจะเป็นสิ่งง่ายๆ แต่สำหรับลูกต้องอาศัยการทำงานที่สัมพันธ์กันของตาและมือ สมองต้องมีการทำงานเชื่อมโยงกัน ยิ่งทำงานมากเส้นประสาทในสมองยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้น

6. เรียนรู้เกี่ยวกับขนาดและปริมาณ (Capacity and Volume)

การเล่นทรายสามารถกลายเป็นการเรียนรู้คณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้ เวลาตักทรายใส่ถัง ลูกจะซึมซับการเรียนรู้เกี่ยวกับปริมาณที่ต้องใส่ สามารถเปรียบเทียบปริมาณทรายที่ต้องใส่ในภาชนะที่ขนาดไม่เท่ากันว่าอาจแตกต่างกัน รู้ว่าอันไหนว่างเปล่า อันไหนเต็ม เหล่านี้สร้างการเรียนรู้ที่มากมายให้ลูกน้อย

7. ลูกได้ระบายพลังงาน

การเล่นทรายลูกสามารถได้ระบายพลังงานที่มีอยู่ ระบายอารมณ์ต่างๆ ในการเล่นทรายลูกสามารถตัก ปั้น ตีทราย การเล่นเล่านี้จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส

บทสรุป

ไม่ว่าจะเปนการเล่นแบบไหนของเด็กจะแฝงด้วยประโยชน์ และการเรียนรู้ต่างๆ มากมาย ในบทความนี้ได้พูดถึงการเล่นทรายและการทำทรายขึ้นมาเอง ทำให้เด็กๆ ได้เรีรยนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เช่น การทดลอง สังเกต การเปลี่ยนแปลงของทรายแห้ง ทรายเปียก และทรายวิทยาศาสตร์ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เป็นต้น นอกจากนี้ยังฝึกทักษะด้านสังคมและอารมณ์ให้เด็ก ในการเล่นร่วมกันและรู้จักแบ่งปัน ให้เด็กๆ ได้รู้จักสำรวจและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสในการเล่นทรายคุณพ่อคุณแม่ที่กลัวว่าการเล่นทรายจะทำให้ลูกเปื้อน ก็ไม่ต้องกังวลไปมากถ้าเปื้อนก็สามารถทำความสะอาดได้ ควรมองที่ประโยชน์ที่ลูกได้จากการเล่นทรายเพื่อให้ลูกน้อยได้เล่นอย่างสนุกและมีความสุข

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก

ที่มาของบทความ

 

ติดตามอ่านเรื่องเกี่ยวกับเด็กได้ที่ ikehika.com
สนับสนุนโดย  ufabet369